- Bitwarden ได้อัปเดตที่เก็บ SDK ภายในเพื่อปรับปรุงภ าษาการอนุญาต โดยเปลี่ยนไปใช้ GPL (General Public License) หรือ Bitwarden SDK License เป็นหลัก
- การอัปเดตนี้เกี่ยวข้องกับไฟล์ 28 ไฟล์ โดยมีการเพิ่ม 2,343 รายการและลบ 299 รายการ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงใน
Cargo.toml
และไฟล์ใบอนุญาต และการเปลี่ยนชื่อไฟล์หลายไฟล์โดยไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาของไฟล์เหล่านั้น
- การอัปเดตนี้มีผลกระทบต่อไฟล์ภาษา JavaScript, Kotlin และ Swift โดยมีการเพิ่มข้อความใบอนุญาตที่สำคัญ
- Bitwarden ได้เปลี่ยนใบอนุญาตชุดพัฒนาโปรแกรม (SDK) จากที่เป็นกรรมสิทธิ์มาเป็น GPLv3 เพื่อตอบสนองต่อความกังวลเกี่ยวกับสถานะโอเพ่นซอร์สของมัน
- การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกา รพึ่งพาโค้ดที่เป็นกรรมสิทธิ์ในบางส่วนของไคลเอนต์
- แม้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะถูกมองในแง่บวกและช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นใน Bitwarden ในฐานะผู้จัดการรหัสผ่านที่เชื่อถือได้ แต่ผู้ใช้ยังคงได้รับการสนับสนุนให้ตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
- การสำ รวจของ CNET ระบุว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมากไม่ประทับใจกับฟีเจอร์ AI จากบริษัทใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเสียค่าบริการรายเดือน
- สถิติสำคัญแสดงให้เห็นว่า 25% ของผู้ใช้ไม่พบว่า AI มีประโยชน์, 45% ไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินสำหรับ AI, และ 34% มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
- เหตุผลหลักในการอัพเกรดโทรศัพท์คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น, พื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น, และกล้องที่ดีกว่า โดยมีเพียง 18% ที่ได้รับแรงจูงใจจากฟีเจอร์ AI
- ผู้บริโภคสมาร์ทโฟนให้ความสำคัญกับคุณสมบัติที่ใช้งานได้จริง เช่น อายุการใช้งานแบตเตอรี่และคุณภาพของกล้อง มากกว่าความสามารถของ AI ซึ่งมักถูกมองว่าไม ่มีประโยชน์หรือไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- มีความต้องการโทรศัพท์ขนาดเล็กที่มีสเปคสูง แม้ว่ารุ่นเหล่านี้มักจะไม่ประสบความสำเร็จในการขาย
- แนวโน้มบ่งชี้ถึงความนิยมในด้านการปรับปรุงที่จับต้องได้ในเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนมากกว่าคุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งถูกมองว่าเป็นลูกเล่น